ใครกำลังมองหาโคมไฟสวยๆ ไปแต่งบ้าน หรืออยากได้ไอเดียดีๆ ในการจัดแสงให้บ้านสวย วันนี้เรารวบรวมไอเดียแต่งบ้านจากเหล่าดีไซน์เนอร์มืออาชีพ ที่แวะเวียนมาพูดคุยกับเราใน 52 Weeks of Design มาช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณโดยเฉพาะ
บ้านจะไม่สวยสมบูรณ์ถ้าขาด Lighting ผมเป็นคนชอบเรื่อง Lighting มาก โคมไฟที่บ้านจะเปลี่ยนทุก 3 เดือน คือถ้าไม่มี โคมไฟรู้สึกว่าบรรยากาศมันจะแห้ง โคมไฟมันทำให้อารมณ์ของบ้านเปลี่ยนได้ตลอดเวลา มันเป็น Gimmick หรือเป็น Mysterious Secret เล็กๆ ในบ้าน เราเปลี่ยนแค่โคมไฟตั้งโต๊ะกับโคมไฟตั้งพื้น...แค่ 2 ตัวนี้ บรรยากาศก็ห้องก็เปลี่ยนเลย
เวลาจะเลือกซื้อโคมไฟ ต้องเลือก Key Piece ก่อน เริ่มจาก “โคมไฟแขวน” จะเป็นอะไร จากนั้นวาง “โคมไฟตั้งพื้น” ต่อ คือดูว่าแบบไหนมันจะเข้ากัน จากนั้นไปเลือก “โคมไฟตั้งโต๊ะ” นี่คือ 3 จุด ที่ผมคำนึงถึงเสมอ ผมว่า “โคมไฟ” ไม่ใช่แค่เรื่องของการประดับประดา แต่เป็นเรื่องของฟังก์ชั่นใช้งานด้วย
ติณณภัทร์ แก้วเมือง: Managing Director, BLUEDGE CONSULTANT
การแต่งบ้านไม่ได้มีแค่เรื่องเฟอร์นิเจอร์อย่างเดียว หลายคนมักลืมเรื่องของ “แสง” ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของบ้าน มันทำให้บ้านน่าอยู่และทำให้ mood & tone ของบ้านเปลี่ยนไปได้ทั้งหมด ดังนั้นอยากแนะนำว่า เวลาแต่งบ้านให้เผื่อสตางค์ไว้สำหรับเรื่อง lighting ด้วย
พิพิธ โค้วสุวรรณ : Interior Design Director , Salt & Pepper Design Studio
เรื่อง Lighting เป็นสิ่งสำคัญ ต่อให้เราตกแต่งห้องสวยขนาดไหน แต่สิ่งที่จะช่วยให้ห้องสมบูรณ์แบบได้คือเรื่องแสง การจัดไฟ และจำนวนโคมไฟ แนะนำว่าลองปรับแสงในห้องให้เป็นแสง Warm White “เมื่อแสงเปลี่ยน” มิติและอารมณ์ทุกอย่างในห้องจะเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ
วรพจน์ เสริมสุขรัตนกุล : Senior Architect, bug studio
“แสงธรรมชาติ” เป็นแสงที่ไม่ประดิษฐ์ เป็นแสงที่เราจะรู้สึกสบายที่สุด ดังนั้น เวลาออกแบบบ้านผมจะเน้นให้บ้านได้รับแสงธรรมชาติมากที่สุด
เอกภาพ ดวงแก้ว : Founder, EKAR Architects
แสงเป็นสิ่งที่ทำให้เรามองเห็นมิติของพื้นที่ เห็นความสวยงามด้านบรรยากาศ ซึ่งตอนกลางวันเรามีแสงธรรมชาติ ส่วนแสงจากโคมไฟ (แสงประดิษฐ์) เปรียบเสมือนเป็น “พระอาทิตย์ของกลางคืน” ดังนั้น เราจึงควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับการจัดแสงเหล่านี้ บางทีใช้เงินลงทุนเท่ากัน แต่ออกแบบต่างกัน มันก็ทำให้บ้านสวยไม่เหมือนกัน
วรนล สัตยวินิจ : Executive Director, A49 HOUSE DESIGN
ถ้าอยากแต่งบ้านเอาใจภรรยา ต้องให้ความสำคัญกับ “พื้นที่แต่งตัว” ค่ะ กระจกต้องมี ! แสงต้องมา ! พยายามให้ได้แสงธรรมชาติมากที่สุด หรือถ้าไม่มีแสงธรรมชาติก็ต้องจัดให้มีแสงส่องจากข้างหน้าไม่ใช่ข้างบน เพราะเวลาแต่งหน้าจะเป็นเงาอย่าลืมกระจกส่องเต็มตัว และถ้ามีตู้เก็บกระเป๋ารองเท้าเพิ่มเติมด้วยรับรองสาวๆ จะปลื้มมากค่ะ
ในงานตกแต่งบี๊จะเน้นเรื่องไฟ Indirect Lighting เพราะส่วนตัวไม่ชอบไฟจากฝ้าเพดาน เพราะมันให้แสงที่กระด้างเวลาอยู่บ้านอย่างในห้องนั่งเล่นจะเน้นเปิดโคมไฟตั้งพื้นหรือตั้งโต๊ะมากกว่า เพราะเราไม่ได้ต้องการความสว่างเพื่อทำงาน แต่เราแค่ต้องการแสงเพื่อดูทีวีเท่านั้น
สุธิดา ตันติ์พิพัฒน์ : Founder, LOAM ARTISANAL LIVING
การใช้ “ไฟซ่อน” ทำให้งานตกแต่งและบริบทภายในบ้านดู smooth และสวยงามไปด้วย ซึ่งถ้าคุณอยากได้ไฟที่ช่วยสร้างบรรยากาศแต่ที่บ้านมีแต่ไฟเพดานแบบปกติธรรมดาและไม่อยากใช้งบอะไรมากมาย ผมแนะนำให้เปลี่ยนหลอดไฟเป็น dimmer เพื่อให้แสงในห้องดูสลัวขึ้นนิดนึง
โกญจนาจ ทององอาจ : Managing Director, AM INTERIOR ARCHITECT MASTER
ห้องจะไม่สวยสมบูรณ์ถ้าขาด Lighting ที่ดี เราสามารถใช้แสงมาสร้างจุดเด่นและจุดรองให้กับพื้นที่เช่น ห้องที่ต้องใช้พื้นที่ร่วมกันอย่างห้องนั่งเล่นและห้องทานข้าว ถ้าคุณอยากให้ห้องนั่งเล่นเด่น ก็อาจใส่แชนเดอร์เลียเข้าไปช่วย ส่วนห้องทานข้าวซึ่งเป็นพื้นที่รองที่อยู่ไกลออกไป ก็อาจใช้เป็นแค่การเล่นระดับฝ้า ไฟหลืบ ไฟซ่อน เพื่อไม่ให้เด่นหรือแข่งกับห้องนั่งเล่น
กุลพงษ์ คงคติธรรม : Co-Founder, Davin Interior Design
แสง เป็นสิ่งที่มีผลกับการออกแบบมากๆ สีกับแสงต้องไปด้วยกัน เช่น ห้องนั่งเล่นขนาด 4 x 4 เมตร แนะนำให้มีไฟหลักในการใช้งาน อย่างไฟดาวน์ไลท์สัก 4 ดวง แล้วมีไฟหลืบ ไว้เปิดเวลาดูหนัง (โดยไม่ต้องเปิดไฟหลัก) และอาจมีโคมไฟไว้ตามมุมต่างๆ ไว้เปิดสร้างบรรยากาศสวยๆ คือปิดไฟทั้งหมด แล้วเปิดเฉพาะโคมไฟ เวลาต้องการความ cozy นิดๆ
เจษฎา คลังเพ็ชร : Project Manager, Loft16
ไปหาโคมไฟหลากดีไซน์ ไปแต่งบ้านสวย เพิ่มเติมได้ที่ Lighting Solutions ศูนย์รวมโคมไฟหลากดีไซน์ สำหรับการใช้งานหลายฟังก์ชั่น ที่ เอสบี ดีไซน์สแควร์ โทร 02 115 0555
ดูไอเดียแต่งบ้านดีๆ จากเหล่าดีไซน์เนอร์มืออาชีพ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.sbdesignsquare.com/th/52-weeks-of-design